Q-CLINIC
รายการแนะนำ
บริการด้านงานออกแบบ ตกแต่งภายใน
เกี่ยวกับเรา
คลินิกได้รับมาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย ในราคาที่ย่อมเยาว์ คลินิกของเราผ่านการตรวจสอบ และได้รับมาตรฐานอย่างถูกต้อง ลูกค้ามาที่นี่ ลูกคาไม่ต้องกังวลใจ ทางเรามีทีมแพทย์เฉพาะด้านที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลปัญหาต่างๆ ของลูกค้า
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ ใช้ผลิตภัณฑ์นำเข้าจากต่างประเทศ ผ่านการทดสอบทางห้องปฏิบัติการเรียบร้อยแล้ว ทางคลินิกเลือกใช้วัสดุ และผลิตภัณฑ์เกรดที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน ผ่านการรับรองที่น่าเชื่อถือและตรวจสอบได้
โปรโมชั่นส่วนลด 10% สำหรับลูกค้าที่จองแพ็กเกจผ่านระบบออนไลน์ เรามอบส่วนลดให้ลูกค้า 10% สำหรับลูกค้าที่จองแพ็กเกจผ่านทางออนไลน์ และเข้าใช้บริการภายในวันที่กำหนด
เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจออกแบบตกแต่งภายใน ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ
ข่าวสาร
ข่าวสาร และโปรโมชั่นล่าสุด
ติดต่อเรา
Phone : 02 004 7299
71/2-13 โครงการโอโซนพลาซ่า ห้อง H1C,H2C ถนนคู้บอน แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงทพฯ 10230
ตัดไขมันถุงใต้ตา
เสริมจมูก
ยกกระชับหน้าท้อง
ดูดไขมัน
เลเซอร์
โบท็อกซ์
ร้อยไหมปรับรูปหน้า
ฟิลเลอร์ปาก
ตัดไขมันถุงใต้ตา
เสริมจมูก
ยกกระชับหน้าท้อง
ดูดไขมัน
เลเซอร์
โบท็อกซ์
ร้อยไหมปรับรูปหน้า
ฟิลเลอร์ปาก
เสริมจมูก
ยกกระชับหน้าท้อง
ดูดไขมัน
ร้อยไหมปรับรูปหน้า
ฟิลเลอร์ Restylane อยู่มานานเป็นร้อยปี เพราะมีดีไม่เคยเปลี่ยน
จุดเด่นของฟิลเลอร์
คุณสมบัติเด่นของฟิลเลอร์ คือการเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกและร่องตื้น ซึ่งฟิลเลอร์ Restylane เป็นสารเติมเต็มไฮยารูลอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ที่มีความใกล้เคียงกับที่อยู่ในร่างกายของเรา และสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
ได้รับการรับรองจาก FDA และ อย.
เรื่องสำคัญที่เราจะต้องคำนึงถึงเมื่อเราคิดจะฉีดฟิลเลอร์คือ ฟิลเลอร์ตัวนั้นปลอดภัยหรือไม่ ซึ่งฟิลเลอร์ Restylane เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน นอกจากจะผ่านการรับรองจาก อย. แล้ว ยังได้รับการรับรองจาก FDA หรือองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา จึงสามารถมั่นใจได้ในความปลอดภัย
2 เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน ฟิลเลอร์ Restylane ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตสองรูปแบบ ให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม
1. NASHA technology หรือ Non Animal Stabilized Hyaluronic Acid เป็นฟิลเลอร์ที่ป้องกันการเกิดการแพ้ และมีความคงตัวสูง ฟิลเลอร์แบบนี้เหมาะกับคนที่ผิวมีสุขภาพดี เมื่อฉีดแล้วจะทำให้รูปหน้าคมชัดขึ้น
2. OBT technology หรือ Optimal Balance Technology เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเจลอ่อนนุ่ม มีโครงสร้างเป็นตาข่าย เหมาะกับคนที่ผิวค่อนข้างบาง เมื่อฉีดแล้วจะทำให้รูปหน้าอ่อนหวาน ละมุนละไม ดูเป็นธรรมชาติ โดยมากมักจะฉีดในบริเวณผิวหนังที่ต้องเคลื่อนไหวอยู่เสมอ เช่น รอบริมฝีปาก ร่องแก้ม
เช็กก่อนว่าแท้หรือเปล่า
เพิ่มความมั่นใจอีกขั้น สำหรับการเลือกใช้ ฟิลเลอร์ Restylane ด้วยการโหลดแอป EZ Tracker โดยให้นำ QR code บนกล่องผลิตภัณฑ์มาสแกน เพื่อดูว่าฟิลเลอร์ในกล่องนั้นแท้หรือเทียม นอกจากนี้ยังบอกได้ว่ามีการติดสติกเกอร์ซ้ำหรือไม่ มีการสแกน QR Code มาแล้วกี่ครั้ง นอกจากนี้ยังมีข้อมูลโรงงานและข้อมูลตัวยาอย่างละเอียด เพื่อความมั่นใจสูงสุดของผู้ใช้
รุ่นไหนเหมาะสมกับส่วนไหน
ฟิลเลอร์ Restylane ที่ใช้ในประเทศไทยมีหลากหลายรุ่น ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ตัวอย่างเช่น
• Restylane Perlane นิยมใช้ฉีดจมูก และใต้ตา
• Restylane Vital ปรับผิวหนังให้มาชุ่มชื้น เหมาะสำหรับฉีดบริเวณตา หรือหน้าผาก
• Restylane Volyme ช่วยเติมผิวหน้าให้ดูอ่อนกว่าวัย
• Restylane Refyne เติมริ้วรอยเล็กๆ หรือริ้วรอยริมฝีปากที่เกิดจากการยิ้ม
• Restylane เติมริ้วรอยที่เกิดบริเวณร่องแก้ม หรือจากการขมวดคิ้ว แต่ไม่ใช่ริ้วรอยที่ลึกมาก
อย่างไรก็ตาม ก่อนการตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ที่มา https://siamrath.co.th/n/238176
5 ข้อควรรู้! ช่วยยืดอายุโบท็อกซ์ให้คงประสิทธิภาพยาวนาน
1.หมั่นขยับกล้ามเนื้อทันทีหลังจากฉีดโบท็อกซ์
หลังจากที่ฉีดโบท็อกซ์เข้าไปแล้ว สิ่งที่ควรทำทันทีก็คือ การขยับหรือบริหารกล้ามเนื้อ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพราะวิธีนี้จะช่วยให้ตัวยาที่ฉีดเข้าไปสามารถดูดซึมได้เป็นอย่างดี สิ่งที่ไม่ควรทำหลังจากฉีดโบท็อกซ์ก็คือ การประคบเย็น เพราะจะเป็นการขัดขวางการดูดซึมของตัวยา ส่งผลทำให้การฉีดโบท็อกซ์ไม่ได้ผลอย่างเต็มที่
2.งดนอนในแนวราบ
หลังจากฉีดโบท็อกซ์ สาวๆ ควรงดนอนราบ และควรระมัดระวังในเรื่องของการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับของหัวใจ เพราะการนอนราบหรือก้มหน้าลงอาจจะทำให้โบท็อกซ์มีประสิทธิภาพที่น้อยลง เนื่องจากเลือดจะไหลเวียนขึ้นมาที่บริเวณใบหน้าในปริมาณมากนั่นเอง
3.หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนทุกชนิด
ในช่วงการฉีดโบท็อกซ์ 2 สัปดาห์แรก ไม่ควรเผชิญกับแสงแดดหรือความร้อนทุกชนิด และควรงดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เนื่องจากความร้อนจะทำให้โบท็อกซ์ย่อยสลายเร็วขึ้น
4.งดทานอาหารต้องห้ามบางประเภท
หลังจากฉีดโบท็อกซ์ สิ่งที่ต้องระวังมากเป็นพิเศษก็คือ การเลือกทานอาหารในแต่ละครั้ง เพราะอาหารบางประเภทมีส่วนต่อการทำลายประสิทธิภาพของตัวยาที่ฉีดเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารปิ้งย่าง อาหารที่มีรสชาติเผ็ดร้อน อาหารประเภทหมักดองทุกชนิด และควรงดสูบบุหรี่ เนื่องจากในบุหรี่มีสารหลากหลายชนิดที่ส่งผลต่อการขยายหลอดเลือด โดยเฉพาะในช่วง 7-14 วันหลังจากฉีดโบท็อกซ์ต้องใส่ใจในเรื่องการทานอาหารมากเป็นพิเศษ
5.เลือกทานอาหารที่มีสารอาหารประเภทซิงค์
การทานอาหารที่มีสารอาหารประเภทซิงค์ทั้งก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์ จะช่วยให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้เร็วและดียิ่งขึ้น ซึ่งอาหารประเภทนี้ได้แก่ อาหารทะเล หอยนางรม ไข่แดง และตับ
การให้ความสำคัญและใส่ใจหลังจากฉีดโบท็อกซ์ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้โบท็อกซ์อยู่ได้นานอย่างมีประสิทธิภาพเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยแก่ร่างกายของเราได้ดีอีกด้วย ดังนั้นเพื่อคงไว้ซึ่งผิวหน้าที่เรียวและเต่งตึงพร้อมทั้งมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย แนะนำให้ใส่ใจในการดูแลตัวเองหลังจากฉีดโบท็อกซ์จะเป็นการดีที่สุด
ที่มา https://www.sanook.com/women/173081/
กินอาหารลดน้ำหนักแต่ละมื้ออย่างไรให้ห่างไกลความอ้วน
อาหารลดน้ำหนักมื้อเช้า
ในบรรดาอาหารทุกมื้อ มื้อเช้าจัดว่าเป็นมื้อสำคัญที่สุดในชีวิตประจำวัน เพราะร่างกายอดอาหารมาตลอดทั้งคืน แน่นอนว่าย่อมต้องการอาหารเช้าไปเติมพลังงานให้กับร่างกายและสมอง เพื่อให้มีพลังในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งวัน และยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน รวมถึงโรคหัวใจมากกว่าคนที่ไม่ทานอาหารเช้าอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงอาหารทอด ของหวาน ขนมปังหรือข้าวขัดขาวไปพร้อมกันด้วย และสำหรับเมนูอาหารที่แนะนำยามเช้าก็คือ
- ขนมปังโฮลวีทกับไข่ดาว สลัดผักผลไม้ เพราะมีกากใยอาหาร กินแล้วอิ่มง่าย เหมาะกับความรีบเร่งในตอนเช้า
- โจ๊กหมูกับผลไม้ได้สารอาหารครบ
- แกงจืด ข้าวกล้องร้อนๆ ผลไม้
- ข้าวต้มทะเล
- แซนวิชทูน่า น้ำผลไม้
- นมจืดใส่ซีเรียลอะโวคาโด แอลมอน และผลไม้
อาหารลดน้ำหนักมื้อกลางวัน
ไม่ควรปล่อยให้ห่างจากมื้อเช้านานเกิน 5 ชั่วโมงเด็ดขาด สาวๆ ควรเลือกทานอาหารที่ให้พลังงานสูง เพราะตอนกลางวันเป็นช่วงที่ร่างกายต้องการการดูดซึมสารอาหารไปใช้ต่อเนื่องกับมื้อเช้า ดังนั้น จึงไม่ควรทานน้ำหวานและน้ำอัดลม สำหรับเมนูอาหารที่แนะนำคือ
- ก๋วยเตี๋ยว น้ำผลไม้สดแบบไม่ใส่น้ำตาลมากเกินไป
- ข้าวกล้อง เกาเหลา
- สุกี้น้ำ
- ข้าวเหนียว ส้มตำ และไก่ย่าง (เลาะหนังออก)
อาหารลดน้ำหนักมื้อเย็น
มื้อเย็น เป็นช่วงที่ร่างกายไม่ต้องการอาหารมากนัก ดังนั้น สาวๆ จึงควรทานให้น้อย แต่ทานแบบให้อิ่มสบายท้อง แต่หลายคนมักเน้นมื้อเย็นเป็นมื้อหนัก ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ช่วงเย็นร่างกายไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานและยังถือเป็นช่วงเวลาที่เตรียมจะเข้านอนในอีกไม่ช้า ดังนั้น หากเลย 5 โมงเย็นไปแล้วก็ไม่ควรกินอาหารแล้ว เพราะอาหารที่กินเข้าไปเมื่อไม่ได้ถูกดึงไปใช้ในรูปแบบพลังงานก็จะเกิดการสะสมตามส่วนต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งจะทำให้อ้วนง่าย และอาหารเย็นก็ไม่ควรมีส่วนประกอบของแป้งหรือน้ำตาลอีกด้วย เพราะนอกจากอ้วนง่ายแล้ว ยังส่งผลเสียแก่สุขภาพในระยะยาวนั่นเอง สำหรับเมนูอาหารเย็นที่ขอแนะนำ คือ
- ผลไม้ที่ไม่หวาน
- เมี่ยงปลาทู
- สลัดผัก
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ
สาวๆ หลายคนล้วนอยากมีหุ่นสวย ดังนั้นคุณจำเป็นที่จะต้องกินอาหารลดน้ำหนักในแต่ละมื้อที่เหมาะสมถูกต้อง และควรหมั่นออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ รับรองค่ะว่าการมีรูปร่างที่สวยเพรียวจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน
อ้างอิงเนื้อหาจาก https://www.sanook.com/women/100655/